เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๒๖ ธ.ค. ๒๕๕๘

 

เทศน์เช้า วันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

ตั้งใจฟังธรรมะเนาะ ตั้งใจฟังธรรมะ ธรรมะในพระพุทธศาสนา ธรรมะในพระพุทธศาสนา เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนถึงบาปบุญคุณโทษ คำว่า “บาปบุญคุณโทษ” ไง สอนให้มีสติมีปัญญา

คนเราเกิดมามันต้องมีปัจจัยเครื่องอาศัย กำเนิด ๔ กำเนิด จิตเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ กำเนิดในครรภ์ ในไข่ ในน้ำครำ ในโอปปาติกะ การกำเนิด ๔ ต้องมีอาหาร ๔ อาหารของมนุษย์กวฬิงการาหาร อาหารของเทวดา วิญญาณาหาร อาหารของพรหม ผัสสาหาร มโนสัญเจตนาหาร อาหารของวัฏฏะที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ สิ่งที่กำเนิด ๔ กำเนิด ๔ ก็ต้องมีอาหาร ๔

คำว่า “มีอาหาร ๔” เราต้องมีปัจจัย มีเครื่องอาศัย ถ้ามีปัจจัย มีเครื่องอาศัย เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ศาสนาสอนให้ถือความกตัญญูกตเวที พระอรหันต์ของลูก เราเกิดจากพ่อจากแม่ พ่อแม่ให้ชีวิตนี้มา พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูกเพราะให้กำเนิดมา กำเนิดมาแล้ว เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา มีสติปัญญา สิ่งนี้บาปบุญคุณโทษ ทำคุณงามความดีของเรา ทำคุณงามความดี แม้แต่กตัญญูกตเวที แม้แต่สังคมมีการเสียสละจาคะเพื่อสังคม เพื่อคุณงามความดี

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว พระพุทธศาสนาสอนที่นี่ไง เพราะทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทำคุณงามความดี กลิ่นของศีลหอมทวนลม คนทำคุณงามความดี เขาจะบอกว่าคนนั้นเป็นคนดี ชาติตระกูลนั้นเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นที่น่าเคารพน่าบูชา ชาติตระกูลนั้นเป็นคนที่เอารัดเอาเปรียบเขา ชาติตระกูลนั้นเราไม่ควรเข้าใกล้เขา นี่ไง พระพุทธศาสนาสอนอย่างนี้ เพราะว่าบาปบุญคุณโทษ การทำคุณงามความดีของเรา เกิดในวัฏฏะ ถ้าบุญพาเกิดๆ เกิดมา คนเรามีการกระทำมา ชีวิตนี้มาจากไหน ชีวิตนี้มาจากไหน ชีวิตนี้มาจากจิตที่มันเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ จิตที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะได้สร้างบุญกุศลมา การสร้างบุญกุศลมา การเกิดมาๆ ของเราต้นทุนมันไม่เหมือนกัน

คำว่า “ต้นทุนไม่เหมือนกัน” เกิดมาถึงแตกต่างกัน เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน พ่อแม่เป็นคนเดียวกัน ลูกจริตนิสัยแตกต่างกันไป เกิดมาที่ครอบครัวกำลังอุดมสมบูรณ์ขึ้นมา ลูกเกิดมาก็มีความสุขความสงบไง เกิดมาทุกข์ๆ ยากๆ มันก็เกิดมา นี่กำเนิด ๔ การกำเนิด เกิดมาจากไหน เกิดมาจากเวรจากกรรมไง เกิดมาจากบาปบุญคุณโทษ การทำบาปบุญคุณโทษ พระพุทธศาสนาสอนที่นี่ไง ถ้าทำดีๆ ทำดีถึงที่สุด ทำดีจนพ้นจากกิเลสไปเลย ทำดี ทำดีแค่เสียสละทาน แค่เสียสละให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข เรายังเสียสละไม่ได้ ของของเรา ของของเราทั้งนั้นน่ะ ของของเรา ปัจจัยเครื่องอาศัย ปัจจัย ๔ มันก็ใช้แค่ชีวิตนี้เท่านั้นน่ะ เวลาตายไปมันก็เป็นสมบัติ ถ้ามีสมบัติแล้วเรามาทำประโยชน์กับเรา

ถ้ากำเนิด ๔ กำเนิด ทำคุณงามความดีไปเกิดเป็นเทวดา เป็นอินทร์ เป็นพรหม ทำบาปอกุศลไปเกิดในนรกอเวจี ถ้าทำมนุษย์สมบัติได้มาเกิดเป็นมนุษย์ เรารู้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนอย่างนี้ไง ถ้าสอนอย่างนี้ เขาว่านรกสวรรค์ไม่มี นรกสวรรค์มาจากไหน นรกสวรรค์ก็บาปบุญคุณโทษอันนี้แหละ เพราะบาปบุญคุณโทษ เราทำสิ่งใดแล้วเราก็ต้องได้รับบาปบุญคุณโทษอันนั้น ทำคุณงามความดี เราประสบความสำเร็จในชีวิต ทำต่างๆ ของเรา มันถึงเวลาแล้วเราต้องไปเสวยภพเสวยชาติอย่างนั้นน่ะ ไม่ใช่ในปัจจุบันนี้

ในปัจจุบันนี้เราเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนถึงกรรมดีกรรมชั่ว ให้เชื่อเรื่องของกรรม ถ้าทำคุณงามความดีมันสุขสงบที่นี่ มันไประงับที่นี่

แต่เราไปเชื่อเทวดา อินทร์ พรหม ต้องการให้คนดลบันดาล ต้องการให้คนอุ้มชู

ความอุ้มชู มันก็บุญกุศลนี้อุ้มชู ทำดีๆ กลิ่นของศีลหอมทวนลม คนที่ดี คนที่เขาขวนขวาย คนที่เขาหมั่นเพียร ทุกคนอยากช่วยเหลือเจือจานทั้งนั้นน่ะ แต่มันเป็นเวรเป็นกรรมของคน บางทีเขาอยากช่วยเหลือเจือจาน แต่ถึงจังหวะและโอกาส อำนาจวาสนาของคนมันไม่เท่ากัน

นี่ก็เหมือนกัน สิ่งที่เวลาเราตายไปแล้ว เราตายไป เราเสวยภพชาติอย่างนั้น เทวดา อินทร์ พรหมต่างๆ หรือเสวยภพชาติเป็นมนุษย์ หรือเสวยภพชาติในนรกอเวจี เราตายไปเราถึงจะได้สถานะอย่างนั้น แต่ในปัจจุบันนี้เราอยากรู้อยากเห็น จะเคารพบูชา นี่เราไปเคารพบูชา เราก็ตัดขาดจากไตรสรณคมน์ เพราะอะไร เพราะเราเป็นชาวพุทธถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ธรรม แสดงธัมมจักฯ ขึ้นมา พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นสงฆ์องค์แรกของโลก สัจธรรมๆ คือข้อเท็จจริงอันนั้น อริยสัจไง

ทุกข์ ทุกข์ควรกำหนด สมุทัยควรละ ทุกข์นะ ชาติการเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่ง ถ้าเป็นทุกข์อย่างยิ่ง มันมีความทุกข์ของมันเป็นอริยสัจ เป็นสัจจะความจริง อันนี้มันเป็นเวลาคนที่จิตใจสูงส่งขึ้นมาแล้วเห็นอริยสัจใช่ไหม แต่ถ้าคน จิตใจของเรายังเป็นฆราวาส จิตใจของเรายังเป็นปุถุชน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนอนุปุพพิกถา สอนให้เสียสละกัน สอนให้รักกัน สอนให้สามัคคีกัน สอนให้ร่วมมือร่วมใจกันทำสิ่งใดแล้วประสบความสำเร็จ สอนอย่างนี้ สอนอย่างนี้เพราะสอนสถานะของมนุษย์ สถานะของความเป็นอยู่ของสังคมไง สถานะความเป็นอยู่ของเรา พ่อแม่ปู่ย่าตายายมีทิฏฐิเสมอกัน มีการสนทนากัน มีความอบอุ่นในบ้าน มีความสุข นี่ไง สวรรค์ในอก สวรรค์ในบ้าน ใครๆ ออกไปไหนก็อยากจะกลับบ้าน อยากจะกลับมาเพื่อความสงบร่มเย็นไง แต่ถ้ามันมีความขัดแย้ง มีแต่ความไม่ลงรอยกัน มันไม่อยากเข้าบ้าน นรกในใจ นี่สิ่งที่นรก

กรรมดีกรรมชั่วมันอยู่ที่นี่ เทวดาเป็นเทวดาที่นี่ ผู้ที่เป็นผู้นำ ผู้ที่เสียสละ มนุสสเทโว เขาเป็นเทวดาในร่างของมนุษย์เลย มนุสสติรัจฉาโน เอารัดเอาเปรียบเขา ทำลายเขา เป็นมนุษย์ ร่างกายเป็นมนุษย์ ใจเป็นสัตว์ นี่ไง กรรมดีกรรมชั่ว บาปบุญคุณโทษ พระพุทธเจ้าสอนที่นี่ สอนที่นี่ ทำที่นี่ มันแจ่มแจ้งที่นี่ ทำไมจะต้องปฏิเสธนรกสวรรค์มีหรือไม่มี ทำไมต้องอยากให้เทวดาคุ้มครอง เทวดาคุ้มครองๆ มันเป็นเรื่องสัจจะ เป็นข้อเท็จจริงของเขา

เทวดา ดูสิ เวลาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกบิณฑบาต พระอินทร์ถวายบาตร ๔ ลูก พระอินทร์ถวายบาตร องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอธิษฐานให้เหลือใบเดียวเป็นสมบัติ เพราะบริขาร ๘ ของพระ นี่ไง เวลาสิ่งที่เขาต้องการบุญกุศลของเขา แต่มันเป็นอะไร มันเป็นเรื่องของวัฏฏะใช่ไหม

แต่ถ้าเวลาเราเกิดเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนถึงบาปบุญคุณโทษ ถ้าบาปบุญคุณโทษ คนเราเวลาจิตใจมันมีกิเลสตัณหาความทะยานอยาก มันก็เหนี่ยวรั้งไป มันอยากทำแต่ความพอใจของมันเท่านั้นน่ะ ทำความพอใจของมันก็เป็นความพอใจของกิเลสไง แต่ถ้าเป็นความพอใจของธรรมล่ะ

สัจธรรม สายบุญสายกรรม ถ้าสายบุญสายกรรม ถ้ามีสติปัญญา มันยับยั้งได้ มันยับยั้งๆ ยับยั้ง พอคนยับยั้ง เขามีความสุขของเขา ไอ้คนที่จิตใจกิเลสตัณหาความทะยานอยากมันชักนำไป มันบอกว่าเขามีความสุขได้อย่างไร ทำไมเขาไม่มีความสุขเหมือนเรา เรา อู้ฮู! เที่ยวระรานเขา เราเที่ยวเก็บทรัพย์สมบัติเป็นของเราหมดเลย เราร่ำรวยมหาศาล ไอ้พวกนั้นแห้งแล้ง ไอ้พวกนั้นแห้งแล้ง...แต่เขามีความสุขของเขา เขาอยู่ในพรหมจรรย์ เขามีพรหมจรรย์เป็นเครื่องอยู่ เขามีคุณธรรมในหัวใจของเขา จิตใจของคนที่มันสูงมันต่ำ มันสูงต่ำอย่างนี้ ถ้าสูงต่ำอย่างนี้ บาปบุญคุณโทษอันนี้สำคัญ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ ถ้าสอนเรื่องบาปบุญคุณโทษ เราทำคุณงามความดีของเรา ทำเพื่อประโยชน์ตรงนี้ไง

ถ้าทำเพื่อประโยชน์ตรงนี้ ถ้ามันแจ่มแจ้งขึ้นมา นี่ไง มนุสสเทโว ร่างกายเป็นมนุษย์ แต่จิตใจเป็นเทวดา ถ้าเป็นเทวดา มันมีความสุข แล้วความสุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี ความสุขอื่นใดจะไปหาที่ไหนถ้าไม่หาในหัวใจ

เราตื่นเต้นหาความสุขกันแต่ข้างนอก หาความสุขกันแต่ข้าวของเงินทอง เราพยายามแสวงหาความสุข ตะครุบเท่าไรมันก็ไม่พอ ตัณหาล้นฝั่ง ความต้องการของเรามันล้นฝั่ง มันไม่พอ โลกทั้งใบนี้มันยังไม่พอ ตัณหาความทะยานอยากมันพอที่ไหน แต่ถ้าเราจะหาความสุขในหัวใจของเรา เรามีสติปัญญาของเรา บาปบุญคุณโทษนะ เราจะหาอะไรมามากมายขนาดนั้น ปัจจัยเครื่องอาศัย ปัจจัย ๔ เราก็มีใช้ของเราแล้ว ชีวิตนี้ก็มีเท่านี้แหละ สิ่งที่เหลือเป็นประโยชน์กับสังคม เป็นประโยชน์กับโลก ใครที่ฉลาด สิ่งที่เป็นทรัพย์สมบัติของเราเอามาทำประโยชน์ได้ แต่ถ้าจิตใจของคนมันต่ำต้อย มีทรัพย์สมบัตินะ มีเศรษฐีมากไม่กล้าใช้สตางค์ มีไว้ทำไม มีไว้ทำไม มีเศรษฐีมีไว้ทำไม มีเงินมหาศาลแล้วใช้ไม่เป็น ทำไม่ได้ ไม่หาปัจจัยเครื่องอาศัยคือดำรงชีวิตพอสมควร

ไม่ต้องไปฟุ่มเฟือย คนที่เขาฉลาดนะ เขาใช้ของเขาพอประมาณของเขา สิ่งที่เหลือมันเป็นประโยชน์ไง แล้วสิ่งที่เหลือมันเป็นประโยชน์ ประโยชน์สังคมด้วยนะ เป็นประโยชน์กับเราด้วย เป็นประโยชน์กับเราตรงไหน

ความตระหนี่ถี่เหนียวมันเป็นกิเลสตัณหาความทะยานอยากกัดหัวใจ เราฝึกหัดด้วยการเสียสละ เวลาคนหัดภาวนา พุทโธๆ หัดทำความสงบของใจ พุทโธให้จิตมันเกาะไว้ จิตของเราให้มันเกาะไว้ เกาะพุทธานุสติ เกาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศน์ไว้ในธรรม ถ้าให้คบมิตรดี ถ้าจะคบมิตร มิตรที่ดีที่สุดคือคบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือพุทธะเป็นชื่อของท่าน เราระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ระลึกถึงพุทธะ พุทโธ เราระลึกถึงของเรา เราเกาะของเราไว้ จิตใจของเรา เราเกาะของเราไว้เพื่อประโยชน์กับหัวใจของเรา

เริ่มต้นหัดภาวนาเขาพยายามจะเกาะไว้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ มรณานุสติ อานาปานสติ ถ้าไม่ได้ก็ใช้สติปัญญา ใช้สติปัญญาพยายามพิจารณาความคิดของเรา ความคิดคืออารมณ์ไง ถ้ามันว่างจากอารมณ์ สัมมาสมาธิคือว่างจากอารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกที่มันเกาะเกี่ยว ที่มันชักนำเราอยู่นี่

นี่ก็เหมือนกัน เวลาเราฝึกหัด การเสียสละทาน การเสียสละทาน จิตใจของเรามันยึดมั่นถือมั่น ของเราๆๆ แล้วมันเสียสละไม่ได้นะ หลวงตาท่านพูดบ่อยเวลาโครงการช่วยชาติ กำเงินธนบัตรใบละบาท กระดาษกำไว้จนเปียก จนเปียกจนแฉะมันยังสละไม่ได้เลย นี่ไง จิตใจถ้ามันสละมันก็เป็นการฝึกหัด มันเป็นการฝึกหัด องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้อุบาย เรามีสิ่งใดเราก็เสียสละของเรา เป็นการฝึกหัดๆ หัวใจของเรา

ใช่ของของเรา มันไม่ใช่ของของใครหรอก เราหามา อาบเหงื่อต่างน้ำหามาเป็นสมบัติของเราทั้งนั้นน่ะ แต่เราเสียสละๆ เราไม่ได้เสียสละเพราะว่าเราโดนบีบคั้น เราไม่ได้เสียสละเพราะความยอมจำนน เราเสียสละว่านี่มันเป็นประโยชน์กับหัวใจ มันเป็นประโยชน์ไง มันเป็นประโยชน์กับใจของเรา ใจเรารู้จักเสียสละ ความตระหนี่ถี่เหนียว ไอ้กิเลสตัณหาความทะยานอยากตรงนี้เป็นช่องทางของมัน เราปิดช่องทางของมันด้วยการสร้างสายบุญสายกรรมของเรา สายบุญสายกรรม ทำคุณงามความดีของเรา

เราเสียสละได้มากได้น้อย ข้าวทัพพีเดียว ในพระไตรปิฎก มีทุคตะเข็ญใจคนหนึ่งเขาหาเงินหาทอง หาปัจจัยเครื่องอาศัยได้ยาก เขาเป็นทุคตะเข็ญใจ เขาไม่มีของเขา วันหนึ่งเขาได้ตักบาตรพระสารีบุตร ๑ ทัพพี ข้าว ๑ ทัพพี แล้วเขาอยากบวชมาก เขาอยากจะประพฤติปฏิบัติมาก ไปหาพระองค์ไหน พระองค์ไหนก็ไม่ให้บวชทั้งนั้นน่ะ จนไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ไปขอพระบวช ไม่มีพระให้บวชเลย”

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ประชุมสงฆ์ประกาศเลย “บุรุษผู้นี้ได้มีคุณกับใครบ้าง”

พระสารีบุตรยกมือเลย

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าถามว่า “เขามีคุณกับเธออะไร”

“เขาเคยใส่บาตรข้าพเจ้า ๑ ทัพพีครับ”

“อย่างนั้นถ้าเขามีคุณกับเธอ พระสารีบุตรเอาบวช”

นี่ข้าวทัพพีนั้น พระสารีบุตรเอาไปบวช บวชเสร็จแล้วนะ พระสารีบุตรสอนประพฤติปฏิบัติจนทุคตะเข็ญใจนั้นเป็นพระอรหันต์ขึ้นมา ข้าวทัพพีเดียว นี่ไง เวลาคนที่เขามีน้ำใจ น้ำใจสิ่งนี้มันสำคัญ ถ้าน้ำใจแล้วมันขวนขวาย มันประพฤติปฏิบัติ

นี่ก็เหมือนกัน เราจะเสียสละของเรา เสียสละทานของเรา เราจะมีมากมีน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าเราจะฝึกหัดหัวใจของเรา ถ้าฝึกหัดหัวใจของเรานะ เวลามันฝึกหัดได้ มีสติปัญญาได้ สุขอื่นใดเท่ากับจิตสงบไม่มี เราจะค้นหาความสุขความสงบในใจเราแล้วล่ะ ถ้าเรารู้จักเสียสละทานได้คือมันมีสติมีปัญญา มีสติปัญญาฝึกหัดหัวใจของเรา เขาจะบอกว่า “เราเสียเปรียบ เราเป็นคนที่ขี้ทุกข์ขี้ยาก ยังมาอวดว่าเสียสละของเรา”

นั่นปากของมาร นี่เราเชื่อธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเชื่อปากขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางทาน ศีล ภาวนาไว้ให้ฝึกหัดหัวใจของคน หัวใจของคนเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บาปบุญคุณโทษ ทำคุณงามความดีของเรา ถ้ามันมีปัญญามันก็จะทำให้สติปัญญาเกิดขึ้นกับใจดวงนี้ไง ถ้าใจดวงนี้เกิดมาเป็นมนุษย์ เกิดมาพบพระพุทธศาสนา แล้วเกิดมีการภาวนา เกิดมีการกระทำของมัน เกิดมรรคญาณ เกิดสัจธรรมขึ้นมาในหัวใจ มันมีคุณค่าแค่ไหน

คนคนหนึ่ง คนคนหนึ่งเวลาพิจารณาปฏิบัติไปแล้วเป็นอริยชน มันเป็นในหัวใจนั้นน่ะ คนเหมือนกัน พระเหมือนกัน พระครูบาอาจารย์ของเรา หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นท่านเป็นพระธรรมดา พระธรรมดาอยู่ในป่าในเขา ท่านไม่มีอะไรพิเศษเลย ท่านไม่มีอะไรเหนือคนหรอก แต่ท่านมีคุณธรรม ท่านมีสติปัญญาอย่างนี้ ท่านมีสติปัญญาฝึกในใจของท่านจนท่านเหนือโลก เหนือโลกจนเทวดา อินทร์ พรหมต้องมาฟังเทศน์

หลวงปู่มั่นอยู่ที่ไหน อยู่เชียงใหม่ บอก โอ๋ย! ๔ ทุ่มมาแล้ว ไปอยู่หนองผือ อยู่ทางอีสานท่านบอกมาเฉพาะวันสำคัญทางศาสนา เทวดา อินทร์ พรหมยังต้องมาฟังเทศน์ ยังมาปรึกษา มาหาทางออก นั่นน่ะยอดคน แต่เป็นพระธรรมดา ไม่มีอะไรเลย มีบริขาร ๘ หลวงปู่มั่นท่านนิพพาน หลวงตาท่านบอกในวัดมีเงินอยู่ ๕๐๐ บาท ไม่มีสิ่งใดเป็นสมบัติเลย นี่ไง เพราะอะไร เพราะที่คุณธรรมอันนี้ จิตใจที่เป็นธรรมมันเหนือทรัพย์เหนือวัตถุ มันเหนือสรรพสิ่งในโลกนี้ คุณธรรมในหัวใจ

ถ้าสัจธรรมๆ มันเหนือโลกนี้ มันมีคุณค่าเหนือโลกนี้ มันเป็นวิมุตติสุข มันเหนือโลก แล้วทำไมมันกลับมากิน โมฆบุรุษตายเพราะลาภ ทำไมมันมาตายเพราะลาภเพราะสักการะ เพราะชื่อเสียงเกียรติศัพท์เกียรติคุณ มันไปตายกับเขาได้อย่างไร งับเหยื่อไป คนโง่ งับเหยื่อมันก็ติดเบ็ด

นี่ไง มันมาจากไหน ทานมันมาจากไหน? ก็มาจากคฤหัสถ์เขา ถ้าคฤหัสถ์เขาดี เขาส่งเสริม มันก็เป็นเรื่องอย่างหนึ่ง ถ้าคฤหัสถ์ของเขา เขาต้องการของเขาล่ะ ไปงับเหยื่อแล้วมันก็เกี่ยวเบ็ด ดิ้นพราดๆๆ อยู่นั่นน่ะ แต่ถ้ามันธรรมเหนือโลกๆ มันเหนือของมันอยู่แล้ว ความสุขที่หาได้ในหัวใจของเรา หัวใจของเราๆ เราหาเอาที่นี่ ถ้าหาเอาที่นี่

ใช่ คนเราเกิดมาต้องมีปัจจัยเครื่องอาศัย เราก็มีปัจจัยเครื่องอาศัยพอดำรงชีพอยู่แล้ว พระเราก็ฉันมื้อเดียวเท่านั้นน่ะ สิ่งที่ฉันมื้อเดียวเขายังดำรงชีพได้เลย เราก็ประหยัดมัธยัสถ์ของเรา ถ้าประหยัดมัธยัสถ์ของเรา ทางการแพทย์เขาว่าสุขภาพแข็งแรง สุขภาพไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ที่เราป่วยกันอยู่นี่ โรคอ้วนตอนนี้มีปัญหามากเลย กินกันจนอ้วน กินกันจนต้องไปลดน้ำหนักนู่นน่ะ แล้วกินไปทำไมนั่นน่ะ นั่นหรือดำรงชีวิต

ฉะนั้น ถ้าเรามีปัจจัยเครื่องอาศัยดำรงชีวิตของเราแล้ว ดำรงชีวิตของเราแล้ว เราเกิดมานะ ชีวิตนี้มีการพลัดพรากเป็นที่สุด ตายหมด ความตายรออยู่ข้างหน้า เกิดมาภพชาติหนึ่ง เราจะได้สมบัติอะไรเป็นสมบัติของเราบ้าง ทรัพย์สมบัติที่หามานะ ไม่ใช่ธรรมวินัยกำไว้ เดี๋ยวมันแย่งกัน แต่ของของเรา บุญกุศลเท่านั้น บาปบุญคุณโทษมันจะติดหัวใจเราไป เพราะหัวใจนี้เป็นคนทำ

เจตนาไง เจตนาที่เรากระทำมันเกิดจากใจ แล้วบาปบุญคุณโทษมันเกิดจากใจนั้น แล้วใจนั้นมันสูงส่งขึ้นไป ใจดวงนั้นไง เราเกิดเป็นชาวพุทธ เกิดมาพบพระพุทธศาสนาไง พระพุทธศาสนาสอนที่นี่ ไม่ใช่ว่าไปอ้อนวอนขอเอา เทวดา อินทร์ พรหมต่างๆ จะไปอ้อนวอนขอเอา

ไอ้ขอเอาอย่างนั้นมันอยู่ที่สายบุญสายกรรม แต่จริงๆ แล้วพระพุทธเจ้าสอนที่นี่ๆ สอนลงที่ศีล สมาธิ ปัญญา สอนลงที่หัวใจของเรานี้ สอนลงที่การประพฤติปฏิบัตินี้ แล้วฝึกหัดของเราขึ้นมาให้เป็นความจริงขึ้นมา มันเกิดกิจจญาณ สัจจญาณ มันเกิดมรรคญาณ มันเกิดวิปัสสนา มันเกิดปัญญาของมัน ทำที่นี่ๆ งานอย่างนี้มันทุกข์ยากกว่างานของโลกที่โยมทำกันเยอะมาก ทำแล้วนะ งานเป็นวัตถุยังวางไว้ได้ สติ สมาธิไม่รักษา หายหมดเลย เวลาเจริญมา โอ้โฮ! อย่างกับเทวดาเลย เวลาเสื่อมไปตกนรกทั้งเป็น แล้วมันเจริญเสื่อมอยู่อย่างนี้ คนปฏิบัติมันจะรู้ว่าการกระทำจะทรงไว้อย่างไร ทรงหัวใจเราไว้ ทรงศรัทธาเราไว้ ทรงข้อวัตรปฏิบัติไว้ ทรงคุณธรรมในหัวใจอันนี้ไว้ เอวัง